Ultrasonic Flow Meter หรือเครื่องวัดอัตราการไหลแบบอัลตราโซนิกเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีการวัดการไหลของของเหลวที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในภาคอุตสาหกรรม ด้วยคุณสมบัติที่สามารถวัดอัตราการไหลโดยไม่ต้องเจาะท่อหรือสัมผัสของเหลวโดยตรง ทำให้ลดความเสี่ยงในการรั่วไหล ป้องกันการปนเปื้อน และสามารถติดตั้งได้ง่ายโดยไม่ต้องหยุดกระบวนการผลิต อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้ Ultrasonic Flow Meter

ให้เหมาะสมกับลักษณะของงานอุตสาหกรรมของคุณไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากมีปัจจัยหลายประการที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งในด้านความแม่นยำ ความคงทน ความเหมาะสมกับของเหลวที่ใช้งาน ตลอดจนต้นทุนการติดตั้งและบำรุงรักษาปัจจัยแรกที่ต้องพิจารณาคือประเภทของ Ultrasonic Flow Meter ที่เหมาะสมกับลักษณะของกระบวนการ โดยทั่วไปแล้ว Ultrasonic Flow Meter
ในด้านของสิ่งแวดล้อมที่ติดตั้ง Ultrasonic Flow Meter ก็ไม่ควรถูกมองข้าม
แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ แบบ Clamp-on และแบบ In-line แบบ Clamp-on จะติดตั้งหัววัดไว้ภายนอกท่อ ทำให้ไม่ต้องตัดหรือเปลี่ยนท่อเดิม Ultrasonic Flow Meter เหมาะสำหรับงานที่ต้องการติดตั้งอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องหยุดไลน์การผลิต หรือกรณีที่ของเหลวที่วัดมีความเป็นอันตรายหรือไม่สามารถสัมผัสได้ ในขณะที่แบบ In-line จะมีการติดตั้งตัวเซนเซอร์ไว้ในท่อโดยตรง เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแม่นยำสูงและมีการใช้งานระยะยาว นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีย่อยที่ใช้ในการวัด ได้แก่ Transit-time และ Doppler โดย Transit-time จะเหมาะกับของเหลวที่มีความสะอาด
ไม่มีตะกอนหรือฟองอากาศมาก ส่วน Doppler จะเหมาะกับของเหลวที่มีสิ่งเจือปน เช่น น้ำเสีย น้ำโคลน หรือของเหลวในอุตสาหกรรมเหมืองแร่นอกจากประเภทของเครื่องแล้ว วัสดุของท่อที่ใช้งานก็มีผลอย่างมากต่อความสามารถในการวัดของ Ultrasonic Flow Meter ท่อที่ทำจากโลหะเช่น สแตนเลส เหล็ก หรือทองแดง จะส่งผ่านคลื่นอัลตราโซนิกได้ดีและเหมาะกับการใช้แบบ Clamp-on แต่หากเป็นท่อพลาสติกหรือวัสดุที่มีความหนาแน่นต่ำ Ultrasonic Flow Meter อาจต้องเลือกเครื่องวัดที่มีความสามารถในการปรับความถี่หรือใช้หัววัดเฉพาะทาง นอกจากนี้ขนาดของท่อก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ
การเลือก Ultrasonic Flow Meter ให้เหมาะสมกับงานอุตสาหกรรม
เพราะจะมีผลต่อการเลือกขนาดของเซนเซอร์และตำแหน่งการติดตั้ง หากเลือกไม่เหมาะสม อาจส่งผลให้ค่าการวัดผิดพลาดหรือลดประสิทธิภาพการทำงานลงลักษณะของของเหลวที่ต้องการวัดก็มีบทบาทสำคัญเช่นกัน หากของเหลวมีความหนืดสูง มีตะกอน หรือมีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว การเลือก ultrasonic flow meter clamp on ที่สามารถปรับค่าการชดเชยอุณหภูมิหรือมีความสามารถในการวัดของเหลวที่ไม่เป็นเนื้อเดียวกันจะเป็นสิ่งจำเป็น
ยิ่งไปกว่านั้น หากของเหลวนั้นมีคุณสมบัติกัดกร่อน เช่น กรดหรือสารเคมีเข้มข้น ก็ต้องเลือกวัสดุของเซนเซอร์หรือหัววัดที่สามารถต้านทานการกัดกร่อนได้ เช่น ทำจากไทเทเนียมหรือพลาสติกชนิดพิเศษเพื่อยืดอายุการใช้งานและลดค่าบำรุงรักษาในระยะยาวความแม่นยำในการวัดเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ Ultrasonic Flow Meter โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่ต้องการความละเอียดสูง เช่น อุตสาหกรรมเคมี อาหารและยา หรือพลังงาน การเลือกเครื่องที่มีระดับความแม่นยำตามมาตรฐานสากล
รายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.taniyainfratech.com/index.aspx?pid=6f15263f-0080-437a-b24f-a1bc59306e75